ช่วงหลัง ๆ ต้องยอมรับว่าอ่านหนังสือเร็วขึ้นมาก ตามปกติจะอ่านอาทิตย์ละ 1.5 ถึง 2 เล่ม ต่อสัปดาห์ด้วยซ้ำ แต่กับหนังสือเล่มนี้ใช้เวลาไปราว ๆ สองอาทิตย์กับหนังสือที่หนาราว ๆ 500 หน้า Why We Sleep ไม่ใช่หนังสืออ่านง่าย เป็นหนังสือที่จากงานวิชาการสายสุขภาพจ๋า มาเขียนเป็นภาษาคน เนื้อหาหนัก เต็มไปด้วยความรู้ จึงไม่ใช่หนังสือที่อ่านเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่เปรียบเหมือนตำราที่เมื่ออ่านจบคุณจะรู้สึกเหมือนมีคนมาตบหน้ากลางสี่แยกแล้วบอกว่า
“แกมันไม่รู้เรื่องการนอนเสียเลย แม้ว่าจะต้องทำมันทุกวันก็ตาม”
แต่ Why We Sleep ก็เหมือนหนังสือดี ๆ อีกหลายเล่ม แม้จะอ่านไม่ง่าย แต่พออ่านจบเราเหมือนได้เปิดเข้าประตูอีกบานที่เราไม่เคยได้เปิดเข้าไปเลย
“ประตูที่บอกเล่าเรื่องราวของการนอน”
Prof. Matthew เขียนหนังสือ บอกเล่าเรื่องราวของการนอนแบบเป็นขั้นเป็นตอนด้วยภาษาง่าย ๆ เมื่อเทียบกับงานวิชาการ หรืองานวิจัยอื่น ๆ แต่ก็เข้มข้นด้วยเนื้อหาที่หนักหน่วง ผ่านการตั้งคำถามง่าย ๆ เช่น
การนอนหลับ คือ อะไร?
เรานอนหลับได้อย่างไร?
ทำไมวัยรุ่นจึงชอบนอนดึกตื่นสาย?
ทำไมเราจึงควรนอนหลับ ?
ความฝัน คือ อะไร จำเป็นไหมที่จะฝัน?
ทำไมเราจึงควรให้เด็กเข้าเรียนช่วง 9 เช้าโมง แทนที่จะเป็น 8 โมงเช้า?
การนอนน้อย ฆ่าคุณได้อย่างไร ?
คำถามง่าย ๆ ที่แสนจะธรรมดา แต่ Prof. Matthew จะบอกเล่าเรื่องราวที่แสนซับซ้อน เวทมนตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ที่ตอบคำถามง่ายอย่างตรงไปตรงมา เป็นขั้นเป็นตอนซะจนเรา ซึ่งเป็นคนอ่านอดละอายใจไม่ได้ว่า เรานั้นไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวเกี่ยวกับการนอนขนาดนี้เชียวหรือ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 4 พาทใหญ่ ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยบทย่อย ๆ 16 บท
1. ว่าด้วยเรื่องของการนอน
พาทนี้ผู้เขียนพาเราไปรู้จักการนอนหลับ ว่าเรานอนหลับได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่ร่างกายนอนหลับ เรารู้ได้อย่างว่าคนอื่นนอนหลับ การนอนหลับของมนุษย์ในแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันอย่างไร ทำไมวัยรุ่นจึงนอนดึกตื่นสาย แล้วทำไมผู้สูงอายุในบ้านจึงนอนเร็วตื่นเช้า การนอนแบบ REM และ NREM ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร ทำไมการตื่นเช้าขึ้น 20% ถึงทำลายการหลับได้ถึง 80% รวมถึงจะพาเราไปรู้จักประวัติศาสตร์การนอน การนอนของสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลานอนหลับบ้างไหม มีสัตว์ที่นอนแล้วฝันบ้างหรือเปล่า และการนอนส่งผลต่อวิวัฒนาการอย่างไร
2. เหตุใดเราจึงควรนอนหลับ
พาทนี้เล่าให้ฟังว่าเราโง่เง่าอย่างไรในเรื่องของการนอน และอันตรายของการอดนอน รวมไปถึงเมื่อเราอดนอนจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง เราสามารถนอนชดเชยได้หรือไม่ การนอนฆ่าเราได้อย่างไร มะเร็ง หัวใจวาย และชีวิตที่สั้นลงเกี่ยวอะไรกับการนอนหลับ การนอนเพียงคืนละ 6 ชม. กี่วันถึงจะเท่ากับคนที่ไม่ได้นอน 1 วันเต็ม เป็นต้น
3. เราฝันอย่างไร และเพราะอะไร
พาทนี้อธิบายเรื่องของการฝันโดยเฉพาะ มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากมายในเรื่องของการฝัน การฝันมีหน้าที่หรือไม่ จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องการความฝัน หรือจะเป็นอย่างไรถ้าเราควบคุมฝันได้
4. จากยานอนหลับ สู่สังคมที่เปลี่ยนไป
พาทนี้จะพูดถึงโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการนอนน้อย การนอนไม่หลับ การละเมอ เช่น
เรื่องราวของ Parks ในปี 1987 ที่เป็นผู้ที่มีอาการละเมอแบบรุนแรง ละเมอขับรถระยะทาง 14 ไมล์ ไปบ้านแม่ยายและพ่อตาจากนั้นลงมือฆาตกรรมทั้งสองและละเมอขับรถกลับ ระหว่างทางสะดุ้งตื่นเห็นเลือดเต็มมือ (ส่วนหนึ่งมาจากมีดที่ตัดเส้นเลือดของเขาเอง) จึงรีบไปที่สถานีตำรวจพร้อมทั้งบอกว่า ผมต้องทำร้ายใครสักคนแน่ ๆ จากนั้นในปี 1988 ศาลตัดสินว่า Parks เนื่องจากมีข้อมูลทางการแพทย์ว่ามีการละเมอรุนแรง ไม่มีประวัติการใช้ความรุนแรง รวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับแม่ยายยังดีมาก แม้ Parks ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายแต่บทลงโทษทางความรู้สึกยังคงหลอกหลอนเขาอยู่
เรื่องราวของคนปกติที่อยู่มาวันหนึ่งก็นอนไม่หลับ หมอทราบว่าเขาเป็นโรคอะไร แต่ไม่มียารักษาสุดท้ายก็เสียชีวิต และยังมีอีกหลายคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งโดยปกติจากข้อมูลทางการแพทย์บอกได้อย่างเดียวว่าต้องทำใจ
สุดท้ายหนังสือเล่มนี้บอกกับเราทำไมการใช้ยานอนหลับถึงไม่ work อนาคตของการนอนหลับของมนุษย์จะเป็นอย่างไรต่อไป เทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคตจะยกระดับคุณภาพการนอนได้อย่างไร และถ้านอนไม่หลับตอนนี้ควรทำอย่างไร
Message ที่สำคัญที่สุดที่ Prof.Mathew ต้องการสื่อสารกับทุกคน คือ สังคมเราขาดแคลนความรู้ในเรื่องของการนอนอย่างมาก (ซึ่งขัดกับความเชื่อของคนทั่วไป) ดังนั้นคุณจะเป็นใครก็แล้วแต่ คนที่นอนเต็มอิ่ม คนที่นอนไม่หลับ คนที่นอนเร็ว คนที่นอนดึก คนที่ไม่ชอบนอน หรือคนที่ชอบนอน “จงอ่านหนังสือเล่มซะ” อ่านเพื่อตัวคุณเองจะได้เข้าใจการนอนมากขึ้น อ่านเพื่อคนอื่น อ่านเพื่อสังคม
เพราะว่าการนอนไม่ใช่แค่ Activity แต่เป็นพันธกิจที่ต้องทำและต้องทำให้ดีด้วย
Frank Underwood ตัวเอกจากซีรี่ย์เรื่อง house of cards ได้พูดไว้ในซีรี่ย์ (ซึ่ง Prof.Mathew เห็นว่าตรงกับความเป็นจริงมาก) คือ
“ผมเกลียดความจำเป็นที่ต้องนอนหลับเสมอมา มันเหมือนกันกับความตายตรงที่สามารถทำให้แม้แต่บุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุด ยังต้องยอมทอดกายลงนอน” — Frank underwood
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการนอน และความเข้าใจการนอน
เมื่อนานมาแล้วมีคนเคยพูดกับผมว่า “เราจะไม่สนใจ ในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ” ผมคิดว่าเรื่องราวของการนอนหลับก็เป็นเช่นเดียวกัน ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เราไม่อาจหนีได้ ทำไมเราจึงไม่ควรเข้าใจมัน ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องอยู่กับเราตลอดชีวิต
ราตรีสวัสดิ์
ถ้าเผลอหลับไปขณะอ่าน ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะผู้เขียนบอกเราว่า เขาจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หนังสือเล่มนี้ส่งเสริมให้คุณหลับ